น้ำอัดลม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า โซดา เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยรสชาติที่สดชื่น ซาบซ่า เหมาะแก่การดับกระหายคลายร้อน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนๆ expand_more
ประวัติความเป็นมา
น้ำอัดลมมีต้นกำเนิดมาจากยุคโบราณ เริ่มต้นจากการนำน้ำแร่ที่มีฟองมาดื่มเพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยา ต่อมาในศตวรรษที่ 18 มีการค้นพบว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดฟองในน้ำแร่ จึงมีการคิดค้นเครื่องจักรที่สามารถผลิตน้ำอัดลมขึ้นมา
ส่วนผสม
น้ำอัดลมทั่วไปประกอบไปด้วย
น้ำ
น้ำตาล หรือสารให้ความหวานอื่นๆ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
กรดฟอสฟอริก
แต่งกลิ่นและรสชาติ
ประเภทของน้ำอัดลม
น้ำอัดลมมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับรสชาติและส่วนผสม
น้ำอัดลมสีดำ: มักมีคาเฟอีนและน้ำตาลสูงexclamation
น้ำอัดลมสีใส: มักไม่มีคาเฟอีน แต่มีน้ำตาลสูง
น้ำอัดลมรสผลไม้: มักมีน้ำตาลสูง
น้ำอัดลมไดเอท: มักไม่มีน้ำตาล แต่มีสารให้ความหวานแทน
น้ำอัดลมโซดา: มักไม่มีน้ำตาลและมีแร่ธาตุต่างๆ
ผลดีของน้ำอัดลม
ช่วยดับกระหายคลายร้อน: น้ำอัดลมมีรสชาติที่สดชื่น ซาบซ่า ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อนได้ดี
เป็นแหล่งพลังงาน: น้ำอัดลมมีน้ำตาลสูง ให้พลังงานแก่ร่างกายได้รวดเร็วexpand_more
ช่วยย่อยอาหาร: กรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
ผสมเป็นค็อกเทล: น้ำอัดลมบางชนิดสามารถนำไปผสมเป็นค็อกเทลได้
ผลเสียของน้ำอัดลม
ทำให้อ้วน: น้ำอัดลมมีน้ำตาลสูง การดื่มเป็นประจำทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ฟันผุ: น้ำตาลในน้ำอัดลมเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้ฟันผุ
กระดูกพรุน: กรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกพรุน
นิ่วในไต: การดื่มน้ำอัดลมที่มีฟรัคโตสสูงเป็นประจำ เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต
โรคหัวใจ: การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ข้อแนะนำ
ดื่มน้ำอัดลมในปริมาณที่เหมาะสม: ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมเกินวันละ 1 กระป๋อง
เลือกน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลน้อย: เลือกน้ำอัดลมไดเอท หรือน้ำอัดลมโซดา
แปรงฟันหลังดื่มน้ำอัดลม: ช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันผุ
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ
สรุป
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เลือกน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลน้อย และแปรงฟันหลังดื่มทุกครั้ง